"จีน" หงายไพ่ใบใหม่ใช้ "เทคโนโลยี" พลิกโฉมเศรษฐกิจในวันที่ภาคอสังหาฯย่ำแย่ เดินหน้าลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง จ่อดันสัดส่วน GDP โต 19% ภายในปี 2569

 

หลังเกิดวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเป็นเสาหลักของประเทศทรุดตัวลง จนโครงสร้างทั้งระบบเสียหาย ทำให้จีนต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่สู่การเป็น “ประเทศที่มีนวัตกรรมชั้นนำ” ด้วยอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ตอกย้ำนโยบาย  Made in China 2025 ทำให้รัฐบาลจีนหันมาสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง หรือ “Three new” เพื่อทดแทนการลงทุนในภาคอสังหาฯ

 

รายงานจาก Bloomberg Economics คาดการณ์ว่า ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก แซงหน้าภาคอสังหาริมทรัพย์ภายในปี 2569

 

นักเศรษฐศาสตร์ นำโดย ฉาง ชู และ เอริค ซู คาดการณ์ว่า ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนจะกลายเป็นแหล่งการเติบโตหลักของเศรษฐกิจ และมีศักยภาพมากพอที่จะผลักดันความต้องการสินค้าและบริการ คิดเป็น 19% ของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 14.3% ในปี 2566 ซึ่งใกล้เคียงกับภาคอสังหาริมทรัพย์

 

 

ปักกิ่งกำลังเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจ มองหาแหล่งการเติบโตใหม่ ๆ แทนที่การพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลกำลังมุ่งเน้นไปที่ "การผลิตขั้นสูง" เน้นการผลิตที่มีเทคโนโลยีสูง นวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูลขนาดใหญ่ และปัญญาประดิษฐ์

 

โดย Bloomberg Economics วิเคราะห์เกี่ยวกับภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนในภาคส่วนต่างๆ เช่น การแพทย์ อุปกรณ์ขั้นสูง ไอที อุปกรณ์และบริการสื่อสาร ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา พบว่าภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพที่จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีน ในปี 2566 ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงมีมูลค่า 18 ล้านล้านหยวน หรือราว 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 14.3% ของ GDP แต่ตัวเลขนี้ยังน้อยกว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีมูลค่า 20.1% ของ GDP

 

จีน ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง :

 

อย่างไรก็ดี ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีแนวโน้มหดตัวในปีต่อๆ ไป ขณะที่ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วและเข้ามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจจีนมากขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงจะเป็นกลไกการเติบโตหลักของเศรษฐกิจจีนในอนาคต

 

รายงานระบุว่า 25% ของสินค้าและบริการที่ผลิตโดยภาคเทคโนโลยีขั้นสูง ถูกใช้โดยภาคอื่นๆ ของเศรษฐกิจ เช่น ภาคการผลิต ภาคการบริการ ภาคการเกษตร   เมื่อผู้บริโภคหรือธุรกิจใช้จ่าย 1 หยวนในสินค้าหรือบริการของภาคเทคโนโลยีขั้นสูง จะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม 1.3 หยวน

 

ทั้งนี้ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนเผชิญกับความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรัฐบาลจีนจำเป็นต้องแก้ไขเพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งข้อกำกัดทางเทคโนโลยีที่สหรัฐฯ และพันธมิตรกังวลว่าเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนอาจถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร ทำให้จีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงจากต่างประเทศ สิ่งนี้อาจขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน

 

ดังนั้นรัฐบาลจีนควรส่งเสริมการพัฒนาของกลไกของตลาดให้เอื้อต่อการเกิดนวัตกรรม ควรลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูงและตรงกับความต้องการของตลาด

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 26 มีนาคม 2567